ได้ดูสัมภาษณ์ของประธานหัวเหว่ยแล้ว มีหนาว
(หมายถึงเมกานะครับ)
แกเริ่มโดยบอกว่า ขอถือโอกาสนี้ ขอบคุณผู้ประกอบการสหรัฐ
ที่ทำงานช่วยเหลือให้โลกพัฒนามาอย่างดี หัวเหว่ยเองก็ได้พวกท่านเป็นที่ปรึกษามาโดยตลอด
ออกชื่อ IBM ด้วย (...อิอิ สายการผลิตคอมพิวเตอร์ของยี่ห้อนี้ ขายให้เลอโนโวไปแล้ว และกำลังโตวันโตคืน)
สุดท้าย อาเจ่กแกบอกว่า บ่อต้องฮ้วง
พวกสูไล่ตามจีห้าของอั๊วไม่ทันในสองสามปีนี้ แน่นวน
ถ้าเทียบกับมือถือ ยอดขายนอกเมืองจีนคิดเป็นสัดส่วนน้อยมาก
น่าจะราวๆ 20% ของยอดขายเท่านั้น มากสุดคืออิตาลี เยอรมัน บราซิล
แต่ดูจากตัวเลขแล้ว ประเทศเหล่านี้ บริโภคมือถือกันราวๆ 30 ล้านเครื่องเท่านั้น
เทียบกับจีน ก็ดูจ๋อยไปเลย หกร้อยล้านเครื่องครับ ในจำนวนนี้
ซัมซุง แอปเปิล และหัวเหว่ยได้ไปคนละราว 20% โดยมีซัมซุงนำหน้า
หมายความว่า ความเสียหาย ถ้าเกิดในอนาคต จะอยู่ในสัดส่วนต่ำกว่า 20%
แต่กลับกัน คนที่อ่วมชนิดกลืนเลือด กลับกลายเป็นกูเกิล เพราะเสียลูกค้าแอนดรอยไปเฉยๆ
อาจจะหมดตลาดจีนได้ทีเดียว ถ้าหัวเหว่ยทำ OS แล้วตลาดจีนยี่ห้ออื่นรับมาใช้
ทั้งนี้ หัวเหว่ยบอกล่วงหน้าแล้วว่า OS ที่ทำออกมาจะมีทั้งตลาดจีนและตลาดสากล
อาศัยความชาตินิยม ผู้บริโภคจีน มีแนวโน้มจะใช้ OS ภาษาจีนอย่างไม่ลังเลอีกด้วย
ความซวยต่อเนื่องอีกอย่างก็คือ เมื่อจีนถูกเร่งให้พึ่งตัวเองดูเดือดอย่างนี้
ก็จะกลายเป็นการผลักผู้บริโภคจอมช๊อปปิ้ง กว่าหกร้อยล้านคน ให้ใช้ของจีนโดยฉับพลัน
แต่ที่จะแย่ในอีกไม่กี่วันก็คือ
โลกจะถูกแบ่งเป็นประเทศ 5G แท้ กับ 5G เทียม ศักยภาพต่างกันห้าเท่าป็นอย่างน้อย
และโดรนพิฆาตทั้งหลายจากสหรัฐ จะสู้โดรน 5G แท้ๆ ของอาเจ่กไม่ได้
หุ่นยนต์อัจฉริยะ รถยนต์อัจฉริยะ และอะไรที่ต้องอาศัยปัญญาประดิษฐ์
จะช้ากว่าชาวบ้าน ห้าเท่าไปโดยปริยาย