ต่างองค์กัน คนละเนื้ออีกต่างหาก

 

https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/567000004361401.jpeg



ผมดูจากภาพนี้นะครับว่าไม่ใช่พระเก่าเป็นพันปีที่จมน้ำ... แต่ภาพนี้ผมคิดว่า​ อาจคนละองค์กับพระที่ขุดพบก็เป็นได้ครับ... เพราะวัสดุ​แช่น้ำเป็นร้อยๆ​ ปี​ หรือพันปี​ แล้วขุดขึ้นมา​ ผิวสมบูรณ์​แบบในรูปนี้...เป็นไปไม่ได้ครับ

แล้วใครเจอพระเก่า​ เอามาขัดจนเหลืองอร่าม​แบบนี้​ คงไม่มีใครทำกัน... ทำไม​เขาถึงเอารูปนี้มาบรรยาย​ถึงการสร้างรอต่อของพระแบบโบราณ... ที่จริงควรถ่ายรูปพระที่พบมากกว่า... รูปนี้พระใหม่​ชัดๆ​ ครับ

ด้วยสายตาวิศวกรเครื่องกล... ถ้ารูปที่ถ่ายเห็น​รอยต่อตามลิงค์​บนนั้นคือพระองค์​ที่ค้นพบนี้... ผมว่าเป็นพระใหม่ครับ... และงานเชื่อมแบบสมัยใหม่​ และต่อหยาบมากๆ​ อีกอย่างผิวองค์ในรูปนี้ไม่พบการกัดกร่อน​เลยแม้แต่นิดเดียว... แต่รูปที่โชว์เหมือนคนละองค์กับพระที่เจอนะครับ... ยังงงๆ​ ว่าอะไรกันแน่

อยากจะพูดถึงการแยกชิ้นส่วนพระพุทธรูปสักเล็กน้อย

เป็นความจริง ที่พระพุทธรูปโบราณนั้น แยกชิ้นส่วนได้ แต่ก็ไม่ทุกองค์
องค์ที่มีชื่อเสียงก็คือหลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตร ถอดได้เป็น 9 ชิ้น
เดิมเป็นพระปูนปั้นอยู่ที่วัดพระยาไกร

https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2019/12/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B3.jpg

ต่อมาวัดถูกทิ้งร้าง บริษัทฝรั่งเช่าทำเป็นสำนักงานแล้วทำผิดเงื่อนไข
พระประธานถูกย้ายไปวัดสามจีน ตือวัดไตรมิตรปัจจุบัน หลวงพ่อเห็นรอยกระเทาะก็เลยทุบปูนออก เห็นเป็นพระโลหะอยู่ข้างใน เจอรอยแยกที่แบ่งองค์พระเป็นชิ้นส่วนด้วย ก็เลยมีชื่อเสียงขึ้นมา

แต่นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น องค์อื่นไม่เป็นเช่นนั้น
อย่างพระศรีศากยมุนี ก็เชิญมาทั้งองค์มาขึ้นท่าน้ำตรงท่าช้างปัจจุบัน
องค์พระใหญ่จนต้องรื้อประตูเมือง เลยได้ชื่อใหม่ว่า "ท่าพระ"

ตีความว่าเป็นพระจีนนี่ว่าเทพแล้ว
ตัดสินว่าเป็นพระเก๊นี้ มหาเทพไปเลย

ฝีมือหล่อระดับนี้
ให้เป็นศิลปินแห่งชาติ ยังน้อยไป
ถ้าองค์นี้ เก๊

พระตามวัด 99% ก็คงเก๊หมด